1. Thylacine :ไทลาซีน หรือที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อ เสือแทสเมเนีย หรือ หมาป่าแทสมาเนีย เนื่องจากมีลายทางที่หลังคล้ายเสือ และลักษณะคล้ายหมาป่าหรือสุนัข
ได้รับการระบุว่า สูญพันธุ์เมื่อปี 1936ในอดีตไทลาซีนเคยเป็นสัตว์มีกระเป๋าหน้าท้อง ประเภทกินเนื้อที่มีขนาดใหญ่ที่สุด
ครั้งในอดีต สามารถพบเจอได้ที่เกาะ Tasmania ก่อนพวกมันจะถูกล่าจนสูญพันธุ์โดย มนุษย์ที่เข้าไปตั้งถิ่นฐาน ซึ่งอาจจะมีพวกมันหลงเหลืออยู่ก็เป็นได้
เป็นนกที่มีจำนวนมากที่สุดในโลก โดยมีจำนวนกว่า 5 พันล้านตัวและ 40% ของจำนวนทั้งหมด
อาศัยในอเมริกาเหนือ พวกมันถูกล่าและคุกคามโดยมนุษย์
ภาพเหล่านี้บ่งบอกได้ว่าเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้พวกมันสูญพันธุ์ไปอย่างรวดเร็วในศตวรรษที่ 20 พวกมันสูญพันธ์แล้วจริงหรือไม่ เพราะถึงแม้ว่าจะถูกจดทะเบียนเป็นสัตว์สูญพันธุ์ แต่จากจำนวนของมัน และความเป็นนกซึ่งบินได้นั้น ยากเลยเกินที่จะพูดได้ว่ามันไม่เหลือแล้วแม้แต่ตัวเดียว!
3.Wooly mammoth : แมมมอธขนดก สูญพันธุ์ไปตั้งแต่ 2000 ปีก่อนคริสตกาล
พวกมันมีความสูงถึง 11 ฟุต หนักได้ถึง 7 ตัน อาศัยอยู่ในทวีปยูเรเซีย และทวีปอเมริกาเหนือ
สาเหตุการสูญพันธุ์คือ การถูกล่าโดยมนุษย์ และการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ
แมมมอธส่วนใหญ่ตายในประเทศไซบีเรีย เมื่อ 10,000 ปีก่อน แต่!!
ประชากรแมมมอธบางส่วนมีชีวิตรอดที่เกาะแรงเกิล ในอาร์กติก เมื่อ 4,000 ปีที่แล้วนี่เอง
ดังนั้นก็ไม่แน่ที่พวกมัอาจจะยังคงหลงเหลือ และ แอบซ่อนอยู่ในป่าลึกของไซบีเรีย
4.Japanese wolf : สูญพันธุ์ไปตั้งแต่ปี 1905 เป็นที่รู้จักกันในชื่อ"หมาป่าฮอนชู"
ครั้งนึงพวกมันเคยอาศัยอยู่ในเกาะฮอนชู เกาะชิโกกุ และเกาะคิวชูในประเทศญี่ปุ่น
มันเป็นสัตว์เชื้อสายหมาป่า ที่มีขนาดเล็กที่สุด ด้วยความยาว 35 นิ้ว และสูงเพียง 1 ฟุตเท่านั้น
ในสมัยโบราณคนญี่ปุ่นเคารพบูชาหมาป่าฮอนชูและเรียกชื่อว่า "มากามิ" ถึงแม้ว่าจะได้รับการยืนยันที่ปี 1905 แต่ยังคงมีผู้คนถ่ายภาพได้ในปี 1910 ดังนั้นจึงอาจจะเป็นไปได้ว่าพวกมันยังคงมีอยู่!
5.Mokele mbembe : เป็นชื่อเรียกของสัตว์ลึกลับขนาดใหญ่ที่พบในหนองน้ำหรือทะเลสาบของตอนกลางของทวีปแอฟริกา ได้แก่บริเวณลุ่มแม่น้ำคองโกของประเทศแคเมอรูน, สาธารณรัฐคองโก, สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก และแซมเบีย
สูญพันธุ์ไปตั้งแต่ 65 ล้านปีก่อน โมแกเล-อึมแบมเบมีรูปร่างคล้ายไดโนเสาร์จำพวกซอโรพอด เช่น แบรคิโอซอรัสหรือบรอนโตซอรัส โดยชื่อนี้เป็นภาษาลิงกาลามีความหมายว่า
"ผู้เดียวที่หยุดการไหลของน้ำได้"
ตามคำบอกเล่าของ มิชชันนารี (สมาชิกองค์การทางศาสนา) ที่เข้าไปในพื้นที่แห่งนั้น เมื่อปี 1959
กล่าวว่าพบเห็นพวกมันถูกจับเป็นอาหาร โดยเผ่าพื้นเมือง!!
ในปัจจุบัน มีนักผจญภัยมากมายออกเดินทางตามหาหลักฐานของสัตว์ดึกดำบรรณชนิดนี้ ที่พวกเขาไม่เชื่อว่ามันได้สูญพันย์ไปแล้วจริงๆ
ConversionConversion EmoticonEmoticon